วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Dcleanfood.com : ประโยชน์และสรรพคุณของกระเทียม !!!

ขออภัยที่ห่างหายไปหลายวัน เนื่องจากไม่สบายและติดภารกิจส่วนตัวครับ วันนี้เราจะมาต่อจากบทความที่แล้วที่เราคำความรู้จักกับกระเทียมกันไป โดยกระเทียมถือเป็นสุดยอดแห่งสมุนไพรไทยชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างสูง และนิยมนำมาประกอบอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารคลีน (Clean Food) หลากหลายเมนู วันนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ของกระเทียมกันนะครับ


ประโยชน์ของกระเทียม
ประโยชน์ของกระเทียมในทางตรงก็คือเป็นส่วนประกอบของอาหารคาวได้หลากหลายมาก ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด ส่วนประโยชน์ทางอ้อมก็คือสรรพคุณของกระเทียมในด้านยาและการป้องกันรักษาโรคนั่นเอง ซึ่งกระเทียมสามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเราในหลายๆด้านอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งคนโบราณยังใช้กระเทียมในการรักษาโรคผิวหนังจำพวกกลากเกลื้อน ประโยชน์ของกระเทียมเพิ่มเติมคือช่วยรักษาแผลที่เน่าเปื่อยและเป็นหนอง ป้องกันโรคเบาหวาน และช่วยขจัดพิษสารตะกั่ว

ประโยชน์และสรรพคุณของกระเทียม มีโดยสังเขปดังนี้
1. ช่วยป้องกันและรักษาโรคความดันโลหิต
2. ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและเนื้องอก
3. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
4. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
5. บำรุงเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง
6. ช่วยขับลม แก้อาการจุดเสียด
7. ช่วยถ่ายพยาธิ
8. ช่วยป้องกันและรักษาอาการของโรคหวัด
9. ช่วยบำรุงผิวพรรณและป้องกันโรคผิวหนังจากเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน
10. ช่วยสร้างภูมิต้านทางให้ร่างกายและช่วยป้องกันโรคหัวใจ
11. ช่วยรักษาและลดการเกิดสิว
12. ช่วยรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบและโรคอื่นๆในโพรงจมูก
13. ช่วยในระบบไหลเวียนโลหิต ให้โลหิตไหลเวียดีขึ้น
14. กระเทียมมีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น
15. กระเทียมมีประโยชน์ในการลดอาการปวดฟันได้
16. สรรพคุณของกระเทียมยังช่วยป้องกันอาการโรคเบาหวานได้

พรุ่งนี้เราจะมาพูดกันต่อถึงประโยชน์ของกระเทียมในตอนที่ 2 กันนะครับ จากการที่เราได้เรียนรู้กันแล้วในบทความนี้ถึงสรรพคุณและประโยชน์ของกระเทียมกันไปแล้ว หลายท่านคงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกระเทียมถึงเป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมนำมาประกอบอาหารตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และการที่จะได้รับประโยชน์และสารอาหารจากกระเทียมอย่างเต็มที่คือต้องรับประทานกระเทียมแบบสด ๆ ตามหลักการของอาหารคลีน (Clean Food) ครับ

เนื้อหาบทความจาก : http://www.เกร็ดความรู้.net/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น