บทความนี้เราจะพาท่านผู้อ่านทุกท่านมาคำความรู้จักกับเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่ง และเป็นเครื่องดื่มที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนานอย่างน้ำอัดลม (soft drink) กันครับหลายท่านคงนิยมดื่มน้ำอัดลมควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่นและทานอาหารได้อย่างมีรสชาติมากขึ้น แต่ท่านผู้อ่านทราบกันหรือไม่ครับว่าน้ำอัดลมมีส่วนผสมของสารใดอยู่บ้าง มีอันตรายแอบแฝงมากับความซ่าสดชื่นสดใสของน้ำอัดลมหรือไม่ และทำไมในเมนูอาหารสุขภาพและอาหารคลีน (Clean Food) จะไม่มีน้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มประกอบในแต่ละมื้อเลย
น้ำอัดลม (Soft Drink) ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่อยู่ในกลุ่ม อาหาร Empty Calories หรือ อาหารที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร ไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่อร่างกายเลย เพราะนอกจากในน้ำอัดลมจะมีสารอาหารที่มีประโยชน์อยู่น้อยมากแล้ว ในน้ำอัดลมยังมีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอยู่หลายชนิดอีกด้วย
น้ำอัดลมหรือ (Soft Drink) ที่จำหน่ายกันอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดนั้นเป็นเครื่องดื่มประเภท เครื่องดื่มที่อัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (carbonated beverage) โดยน้ำอัดลมจะมีทส่วนประกอบหลักคือ น้ำโซดา น้ำอัดลมจะมีรสชาติที่หวานจัด เนื่องจากในน้ำอัดลมประกอบด้วยสารจำพวกสารให้ความหวาน (sweetener) นอกจากนี้ในน้ำอัดลมยังมีการเติมสีและแต่งกลิ่นให้ดูน่ารับประทานมากขึ้นอีกด้วย ในน้ำอัดลมส่วนใหญ่จะไม่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม และน้ำที่ใช้เป็นส่วนประกอบของน้ำอัดลมจะเป็นน้ำสะอาดตามคุณภาพหรือมาตรฐานน้ำดื่ม โดยน้ำอัดลมจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่มากถึงร้อยละ 86-93 % และในน้ำอัดลมยังมีน้ำตาลผสมอยู่ในอัตราสส่วนร้อยละ 7-14 % นอกนั้นจะเป็นสารจำพวกสารปรุงแต่งกลิ่น รส และสีที่ได้จากส่วนผสมของผลไม้ พืชผัก หรือสมุนไพร ที่อนุญาติให้ใช้ได้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข การอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในน้ำอัดลมเพื่อให้น้ำอัดลมมีรสซ่า น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานที่มาจากน้ำตาลที่ผสมอยู่ในน้ำอัดลม ซึ่งเป็นพลังงานที่ร่างกายของเราสามารถดูดซับและนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากปริมาณน้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบ และน้ำตาลที่ใช้อยู่ในรูปของเหลว ซึ่งสามารถจะผ่านช่องปากลงสู่กระเพาะอาหารได้อย่างรวดเร็ว แพทย์จึงมักจะแนะนำให้เด็กและผู้ใหญ่ดื่มน้ำอัดลม หากไม่สามารถรับประทานอาหารอื่นได้ นอกจากจะเพิ่มปริมาณของเหลวที่ร่างกายได้รับแล้ว น้ำอัดลมยังมีผลช่วยบรรเทาอาการคลื่นเหียนจากการแพ้ท้อง หรือหลังการผ่าตัด ช่วยในระบบย่อยอาหาร และดับความกระหายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
การจัดกลุ่มของน้ำอัดลมในประเทศไทย
น้ำอัดลมในประเทศไทยสามารถแบ่งได้ตามสีและกลิ่นออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่คือ
1. น้ำอัดลมประเภทโคล่า น้ำอัดลมประเภทนี้มีสารปรุงแต่งหัวเชื้อจากเมล็ดโคล่า ใบโคคา และน้ำตาล ใบโคคาคือใบไม้แห้งที่ได้จากต้นโคคา (Coca) ที่นิยมปลูกกันในประเทศแถบอเมริกาใต้ และผลโคล่า โคล่าเป็นพืชตระกูลถั่วชนิดหนึ่งที่มีสายพันธุ์มาจากประเทศแถบแอฟริกา ซึ่งในผลโคล่านี้จะเต็มไปด้วยสารกระตุ้นประสาทอย่างสารคาเฟอีน และสีดำเข้มของเครื่องดื่มน้ำอัดลมประเภทโคล่า จะได้จากการการผสมระหว่างสีของน้ำโคล่ากับน้ำตาลที่ถูกเคี่ยวจนไหม้นั่นเอง
2. น้ำอัดลมที่ปรุงแต่งรสและกลิ่นเลียนแบบน้ำผลไม้ เช่นน้ำอัดลมรสส้ม น้ำอัดลมรสองุ่น หรือรสมะนาวเป็นต้น น้ำอัดลมเหล่านี้จะมีการเติมคาเฟอีนลงไปในภายหลังเนื่องจากไม่ได้รับคาเฟอีนจากผลของโคล่า แต่ในน้ำอัดลมประเภทนี้จะมีน้ำตาลเป็นส่วนผสมในปริมาณที่มากกว่าน้ำอัดลมประเภทโคล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น