ต่อจากตอนที่ 4 นะครับเรามาพูดกันต่อเกี่ยวกับอันตรายจากเนื้อสัตว์กันเลย
มีผลงานวิจัยของทางรัฐบาลโดยสถาบันโภชนาการ ได้ผลลัพธ์ที่น่าตระหนกว่าไตของคนที่รับประทานเนื้อสัตว์ต้องทำงานหนักเป็น 3 เท่าของผู้ที่รับประทานผัก และผลไม้เพื่อขับสิ่งสกปรกและของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกายเช่น แอมโมเนีย, ยูเรีย, กรดยูริค และสารพิษที่ร่างกายได้จากการรับประทานเนื้อสัตว์เข้าไป โดยเมื่อสารพิษเหล่านี้สะสมในร่างกายในปริมาณมากเป็นระยะเวลายาวนาน
โดยขณะที่เรายังเป็นหนุุ่มสาวมีร่างกายแข็งแรงร่างกายมักจะจะไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ ออกมา แต่พอเรามีอายุมากขึ้น แต่เดิมมักจะอยู่ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ในปัจจุบันช่วงเวลาสั้นลงมาอยู่ที่อายุ 30 ปีขึ้นไปจึงเริ่มแสดงอาการออกมาให้เห็นชัดเจน โดยจะมีภาวะของโรคร้ายต่าง ๆ โดยเฉพาะภาวะความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งสูงมาก หากเรานิยมหรือทานเนื้อสัตว์เป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกวันโดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่ผ่านการทอดจากน้ำมันเก่า หรือเนื้อสัตว์ที่ผ่านการปิ้งย่างจนไหม้เกรียม โดยเนื้อวัวที่เรามักจะนำมาทำเป็น Steak รับประทาน ก็มีสารอันตรายมากมายไม่ต่างจากเนื้อหมู โดยเฉพาะสารฟอกขาว ซึ่งนิยมใช้กันอย่างมากในการฟอกเครื่องในวัวประเภทผ้าขี้ริ้ว และสัตว์อื่น ๆที่มีสีสดดูน่ารับประทานเช่นกุ้งแห้งก็เช่นเดียวกัน ที่มักมีส่วนผสมของสีย้อมผ้าในปริมาณมาก ซึ่งสารพิษจากสีย้อมผ้าทำให้ร่างกายเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
อาหารรมควันก็เป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่กระทรวงสาธารณะสุขต้องทำการเตือนให้ผู้บริโภคทำการหลีกเลี่ยง เช่น ไส้กรอกรมควัน หรือปลารมควัน อาหารรมควันเหล่านี้พบว่ามีสารโพลีไซคลิก, อโรมาติก และไฮโดรคาร์บอน ซึ่งหากได้รับเข้ามาสะสมในร่างกายของเราในปริมาณมาก ๆ แล้วจะทำให้เกิดภาวะเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้
โดยขณะที่เรายังเป็นหนุุ่มสาวมีร่างกายแข็งแรงร่างกายมักจะจะไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ ออกมา แต่พอเรามีอายุมากขึ้น แต่เดิมมักจะอยู่ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ในปัจจุบันช่วงเวลาสั้นลงมาอยู่ที่อายุ 30 ปีขึ้นไปจึงเริ่มแสดงอาการออกมาให้เห็นชัดเจน โดยจะมีภาวะของโรคร้ายต่าง ๆ โดยเฉพาะภาวะความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งสูงมาก หากเรานิยมหรือทานเนื้อสัตว์เป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกวันโดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่ผ่านการทอดจากน้ำมันเก่า หรือเนื้อสัตว์ที่ผ่านการปิ้งย่างจนไหม้เกรียม โดยเนื้อวัวที่เรามักจะนำมาทำเป็น Steak รับประทาน ก็มีสารอันตรายมากมายไม่ต่างจากเนื้อหมู โดยเฉพาะสารฟอกขาว ซึ่งนิยมใช้กันอย่างมากในการฟอกเครื่องในวัวประเภทผ้าขี้ริ้ว และสัตว์อื่น ๆที่มีสีสดดูน่ารับประทานเช่นกุ้งแห้งก็เช่นเดียวกัน ที่มักมีส่วนผสมของสีย้อมผ้าในปริมาณมาก ซึ่งสารพิษจากสีย้อมผ้าทำให้ร่างกายเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
อาหารรมควันก็เป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่กระทรวงสาธารณะสุขต้องทำการเตือนให้ผู้บริโภคทำการหลีกเลี่ยง เช่น ไส้กรอกรมควัน หรือปลารมควัน อาหารรมควันเหล่านี้พบว่ามีสารโพลีไซคลิก, อโรมาติก และไฮโดรคาร์บอน ซึ่งหากได้รับเข้ามาสะสมในร่างกายของเราในปริมาณมาก ๆ แล้วจะทำให้เกิดภาวะเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้
บทความ : Clean Food
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น