วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Dcleanfood.com : การจัดกลุ่มอาหารตามหลักการของหยินและหยาง และวิธีสร้างสมดุลหยิน-หยาง ตอนจบ

บทความ : Clean Food ต่อจากคราวที่แล้วนะครับ บทความนี้เป็นตอนจบของเรื่องการจัดกลุ่มอาหารตามหลักการของหยินและหยาง และวิธีสร้างสมดุลหยิน-หยาง ตอนจบกันแล้วครับ

 Clean Food

อาหารหยางมีสรรพคุณทำให้ร่างกายมีความอบอุ่นขึ้น, กล้ามเนื้อแข็งกระชับ, ทำให้ร่างกายเกิดความเครียดและการตื่นตัว ร่างกายมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น ช่วงเวลาการนอนหรือพักผ่อนน้อยลง ใบหน้าแดง โดยหากเรารับประทานอาหารที่มีความเป็นหยางสูงติดต่อกันจนมากเกินพอดีจะทำให้เกิดอารมณ์และความคิดแบบหยางอันได้แก่ ความดุดัน, มุทะลุ และก่อให้เกิดความก้าวร้าวในที่สุด

โดยอาการเหล่านี้จะค่อยๆ แสดงออกมา เมื่อเราทำการรับประทานอาหารที่มีความเป็นหยินหรือความเป็นหยางมากเกินความพอดีเป็นระยะเวลาติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน โดยจะเริ่มมีอาการที่บ่งบอกให้ทราบถึงความไม่สมดุลของร่างกาย อาหารทุกประเภทมีปัจจัยความเป็นหยินและหยางอย่างหนึ่งอย่างใดมากกว่าเสมอ เพราะไม่มีอาหารใดที่เป็นกลางอย่างชัดเจน โดยถ้าหากเรารับประทานอาหารที่มีความเป็นหยินเป็นส่วนใหญ่ ร่างกายของเราจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นหยินไปทีละเล็กทีละน้อย แต่ในทางกลับกัน ถ้าเรารับประทานอาหารที่มีความเป็นหยางมากเป็นส่วนใหญ่ ร่างกายของเราจะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นหยางทีละเล็กทีละน้อยเช่นกัน

ทางออกที่ดีที่สุดในการสร้างสมดุลระหว่างหยินและหยางในร่างกายคือ การเลือกรับประทานธัญพืชที่สมบูรณ์ครบ เช่น ข้าวกล้องที่ไม่ผ่านการขัดสีคิดเป็น 50-60 % ของอาหารทั้งหมดในแต่ละมื้อที่เรารับประทานเข้าไป จะทำให้ร่างกายรักษาสมดุลของแร่ธาตุต่าง ๆ และสมดุลระหว่างหยินและหยางเอาไว้ได้ ส่งผลให้การทำงานของระบบประสาทในร่างกายทั้งระบบประสาทอัตโนมัติซิมพาเทติคและระบบประสาทพาราซิมพาเทติคทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายสามารถรักษาสมดุลของการหลั่งฮอร์โมนระหว่างต่อมประเภทต่าง ๆ ในร่างกายเอาไว้ได้ตามปกติ เมล็ดธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีเป็นอาหารที่สร้างสมดุลให้กับร่างกายของมนุษย์ได้มากที่สุด เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์สูงมากจากธรรมชาติ และเป็นอาหารที่มีประโยชน์สูงสุดลำดับต้น ๆ ของมนุษย์

การกินอาหารให้เกิดความสมดุลแก่ร่างกายนั้นเราต้องเลือกรับประทานผักตามฤดูกาลและผักที่ปลูกในท้องถิ่นที่เราอาศัยอยู่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ เพราะจะทำให้ร่างกายเกิดความสมดุลกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ตามฤดูกาลซึ่งร่างกายของเราจำเป็นต้องอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมนั้น ๆ แต่การทำตามหลักปฏิบัตืเหล่านี้ทำได้ยากมากในประเทศที่มีการพัฒนาและมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงมาก โดยจะทำให้คนในประเทศนั้นเกิดปัญหาโดยประสพภาวะความเสื่อมของร่างกายมากกว่าประเทศอื่น ๆ โดยการที่เรารับประทานอาหารตามฤดูกาลและเป็นอาหารที่มีในท้องถิ่นของเรานั้น ธรรมชาติจะมอบสิ่งที่จำเป็นและต้องใช้ในฤดูกาลนั้น ๆ แก่ร่างกายของเรา ตัวอย่างเช่นในเขตขั้วโลกที่มีความหนาวเย็น ชาวเอสกิโมจำเป็นต้องรับประทานเนื้อสัตว์เพื่อให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นสามารถต่อสู้กับความหนาวเย็นของอากาศได้ และพื้นที่แถบขั้วโลกจะมีพืชน้อยมาก ส่วนในเขตร้อนหรือแถบเส้นศูนย์สูตร พืชผักและผลไม้จะมีจำนวนมากและมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการช่วยให้ร่างกายของเราเย็นลง สามารถมีชีวิตอยู่ในสภาพเขตร้อนได้

บทความ : Clean Food

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น