จากตอนที่แล้วเราทราบความหมายของแมคโครไบโอติกกันมาแล้วคราวนี้เรามาศึกษาความเป็นมาของแมคโครไบโอติก Macrobiotics กันบ้างดีกว่าครับ
การใช้ชีวิตตามหลักการของแมคโครไบโอติกหรือการดำเนินชีวิตและรับประทานอาหารตามหลักธรรมชาตินั้น ผู้ปฏิบัติจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของอาหารที่รับประทานเข้าไปเพราะอาหารที่เรารับประทานไม่เพียงแต่จะช่วยหล่อเลี้้ยงร่างกาย ช่วยประทังชีวิตของเราให้อยู่รอดเพียงเท่านั้น หากเรารับประทานอาหารตามหลักของแมคโครไบโอิติกแล้วจะช่วยปรับพื้นฐานของสุขภาพและความสุข ความมีชีวิตชีวาของเราให้ดียิ่งขึ้น แนวความคิดและหลักแมคโครไบโอติกนี้เกิดขึ้นมานาหลายพันปีก่อน โดยนักปราชญ์นักคิดที่ยิ่งใหญ่ชาวกรีก ได้เรียบเรียงหลักคำสอนในศาสนา และลัทธิต่างๆ อันได้แก่ หลักพระมนูของอินเดีย, คำภีร์เน่ยชิงของประเทศจีน และหลักการรับประทานอาหารแบบเซ็น เป็นต้นและเมื่อถึงปี พุธศักราชที่ 2340 นายแพทย์คริสตอฟ วิลเฮล์ม ฟอน ฮัฟแลนด์ ได้เริ่มใช้คำว่า แมคโครไปโอติก ในงานเขียนเรื่อง ดัส มาโครบิโอติค (Das Makrobiotik) ซึ่งเป็นงานเขียนเกี่ยวกับศาสน์และศิลป์ในการทำให้มนุษย์มีชีวิตที่ยืนยาว ซึ่งกระบวนการทางการแพทย์จะเป็นการดูสภาวะที่ร่างกายและจิตใจเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน แต่กระบวนการของแมคโครไบโอติกเป็นการดูการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจที่้เป็นหนึ่งเดียว
โดยบุคลากรทางการแพทย์โดยทั่วไปจะรู้สึกพอใจที่สามารถฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยให้กลับมาแข็งแรงดังเดิมได้ แต่ไม่ได้พิจารณาถึงสาเหตุและเหตุผลว่าสภาพร่างกายสามารถฟื้นฟูมาได้อย่างไร การที่ชีวิตเราจะยืนยาวมีสุขภาพที่แข็งแรงได้นั้น อาจจะต้องพึ่งพากระบวนการทางการแพทย์บ้างเมื่อเราไม่สบายหรือป่วย แต่กระบวนการแมคโครไบโอติกจะทำให้เรามองเห็นสาเหตุของความเจ็บป่วยนั้น ๆ โดยในขณะที่ร่างกายของเราป่วยอยู่นั้นหากเราปฏิบัติหรือรับประทานอาหารตามหลักแมคโครไบโอติกร่างกายของเราก็จะกลับมาแข็งแรงและมีชีวิตที่ยืนยาวได้ แมคโครไบโอติกจึงเปรียบได้กับวิทยาศาสตร์สาขาหลักที่ครอบคลุมมากที่สุด และวิทยาศาสน์และวิทยาการทางการแพทย์จะรองลงมาจากแมคโครไบโอติกเพราะแมคโครไบโอติกสามารถช่วยเราบอกถึงวิธีการที่จะวินิจฉัยโรค รักษาและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูสำคัญในการดำเนินชีวิตของคนเรา ซึ่งแมคโครไบโอติกสามารถบอกและวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยได้ดีกว่าวิทยาศาสตร์ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในปัจจุบัน
พรุ่งนี้เรามาต่อกันเรื่องประวัติความเป็นมาของแมคโครไบโอติกกันต่อนะครับ มีประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจต้องพูดถึงกันอีกมากครับ
บทความ : Clean Food
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น